เอายอด Like ไปทำอะไร

เมื่อไม่กี่วันก่อนมีประกาศจาก Meta (Facebook) ว่าจะยกเลิก Impression แล้วไปใช้ View แทน เป็นวันเดียวกับที่เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของธุรกิจมาปรึกษาว่า ตอนนี้ Facebook page ที่จ้างคนทำคอนเท้นอยู่ มียอด Like (Reaction) หลักพันต่อคอนเท้น ไม่มีคอมเม้น ไม่มีแชร์ ไม่มี inbox ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความสนใจมากกว่ายอดกด Like หลักพัน 

“เค้าซื้อ Like เอนถื่ป่าววะ กดเข้าไปดูคนกดไลค์มีแต่ชื่อและหน้าตาแปลก ๆ ดูไม่ใช่ ดูไม่เหมือนกลุ่มลูกค้าของธุรกิจเลย”

“แล้วที่ทำอยู่ มันคือดีรึป่าววะ”

ผมคิดว่ามันเป็นคำถามที่น่าสนใจ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินคำถามแบบนี้ และคิดว่าคงไม่ใมช่ครั้งสุดท้าย ใครที่มีคำถามประมาณนี้เหมือนกัน อย่างแรกผมอะยากให้มองโลกในแง่ดีก่อน

ด้วยระบบการซื้อโฆษณาของ Facebook ตอนนี้การซื้อ โฆษณาด้วย objective engagement มันมีผลกับยอด Like ต่อคอนเทนต์โดยตรง แทบจะไม่มีมีความจำเป็นเลยที่ต้องไปซื้อเถื่อน ซื้อโฆษณาจริง ๆ นี่แหละ คำถามที่อาจจะต้องถามต่อคือ ตั้ง Target คนที่เราอยากให้เห็นคอนเทนต์เรายังไง แต่ถึงจะตั้งดีแล้วจากประสบการณ์ส่วนตัว มันมีคนที่เราอาจจะคิดว่าแปลก ๆ เสมอ แต่เค้าอาจจะเป็นลูกค้าเราก็ได้เพราะการกดเข้าไปดู profile อย่างเดียวแล้วบอกว่าไม่น่าใช่อาจจะไม่จริงเสมอไป อย่างแรกขอดู Report และขอดูการตั้ง Target ก็น่าจะพอบอกได้ระดับหนึ่ง

คำถามที่น่าสนใจว่าคือ “แล้วที่ยอด Like มันเยอะแต่ engagement อื่นมันไม่มีเลย มันเรียกว่าดีรึเปล่า”

ผมเลยตอบเพื่อนของผมไปด้วยคำถาม “ต้องการอะไรจากการทำ Facebook Page”

ต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ เพื่อหวังว่าจะเปลี่ยนการปฏิสัมพันธ์นี้ ไปเป็นการซื้อสินค้าในอนาคต

แล้วคอนเทนต์ที่มีแต่คนกด Like (ซึ่งคิดว่าน่าจะมาจากการซื้อโฆษณา) มันตอบสิ่งที่ต้องการไหม

“ไม่”

ผมคิดว่าหลายครั้งเราทำอะไรบางอย่างมานานเกินไปจนเราหลงลืมว่าเราทำเรื่องนั้นไปทำไม อย่างการทำ Facebook Page วันแรกๆเป้าหมายและความต้องการชัด แต่พอทำไปเรื่อย ๆ เราเริ่มหลงลืมว่าทำมันไปทำไม เหลือแค่เอา สถิติ มาเทียบว่ายอดนั้นยอดนี้มันดีกว่าเดือนที่แล้วนะ

ถ้าดูแค่นั้นผมแจกสูตรเลยแล้วกัน

ซื้อโฆษณาตั้ง Objective เป็น optimize Engagement จะได้ยอด Like ต่อคอนเทนต์สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ทำคอนเทนต์เป็นอัลบั้ม แล้วซื้อโฆษณาตั้ง Objective เป็น optimize Engagement จะได้ยอด Click ที่เพิ่มขึ้นเยอะมากๆ

ทำ Video Content สั้นๆ แล้วซื้อโฆษณาตั้ง Objective เป็น optimize view จะได้ยอดวิวขึ้นแน่นอน

แต่ผมอยากให้ลองถามตัวเองและทีมดูว่า เอาไปทำอะไร… มันตอบ วัตถุประสงค์ (Purpose) ในการทำ Facebook Page อยู่รึเปล่า

“ต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า”

เราควรเห็น comment ที่เข้ามาคุยกับเราใน topic ที่เราชวนเค้าคุยใน content นั้นๆ

เราควรเห็นคนแชร์คอนเทนต์ของเราไปใน feed ของเค้า หรือแชร์ไปให้เพื่อนเค้า

เราควรเห็น inbox ที่มีคนเข้ามาถามหาสินค้า

หรือเรียบง่ายกว่านั้น ลองถามตัวเองว่า “ต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า” อะไรคือ “One metric that matter” (อะไรคือตัวชี้วัดที่เกี่ยวกับความต้องการของเราที่สุด) ผมเชื่อว่าแค่ถามตัวเองเท่านี้ทุกคนมีคำตอบในใจ

ส่วนเพื่อนผมต้องเปลี่ยนคนทำไหม ผมแนะนำว่าลองคุยความต้องการกันดูก่อนครับ เพราะบางครั้งมันอาจจะเป็นการตั้ง KPI ที่มองแต่ตัวเลขมากเกินไปจนลืมว่าเราทำ Facebook Page ไปทำไม หรือไม่จำเป็นต้องเป็น Facebbok Page ก็ได้ครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทำอะไรอยู่แล้วสงสัยว่าเราทำได้ดีรึยัง ลองเริ่มจากการถามตัวเองว่า

“เราทำสิ่งที่เราทำอยู่ ไปทำไม” น่าจะช่วยตอบคำถามในใจหลายๆคนได้ครับ